ในทางพฤกษศาสตร์ เชื่อกันว่าต้นชาที่มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ แท้จริงแล้วมีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบยูนนาน ไม่ใกล้ไม่ไกลจากไทย อยู่เหนือจากเชียงรายขึ้นไปนิดเดียว ซึ่งบรรพบุรุษของต้นชานี้ พอถูกลม ฝน นก สิงสาราสัตว์แพร่กระจายเมล็ดไปยังที่ต่างๆ ก็เกิดการวิวัฒนาการสายพันธุ์โดยปรับตัวไปตามสภาพแวดล้อมของแต่ละที่ที่เมล็ดแพร่พันธุ์ไป
.
เมล็ดที่ตกไปอยู่แถบอินเดีย เนื่องจากสภาพแวดล้อมบริเวณนั้นมีความอุดมสมบูรณ์ ฝนชุก ความชื้นสูง ต้นชาจึงวิวัฒนาการให้มีใบที่ใหญ่ ลำต้นใหญ่โต สูง แข็งแรง เพราะทั้งอากาศ ดิน แสงแดด เอื้อต่อการเติบโตของต้นชา
.
ในขณะเดียวกัน เมล็ดชาที่แพร่ขึ้นไปทางตอนเหนือของประเทศจีน ต้องเผชิญกับสภาวะหนาวเย็น ขาดน้ำฝนในช่วงฤดูหนาว ต้นชาจึงวิวัฒนาการตัวเองให้มีใบที่เล็กลง และไม่เติบโตเป็นลำต้นสูงใหญ่ หากแต่มีขนาดเพียงแค่ไม้พุ่ม
.
เมื่อระยะเวลาผ่านไปแสนปีล้านปี ต้นชาที่เกิดในสภาวะแวดล้อมต่างกันอย่างสุดขั้ว ในอีกฟากหนึ่งมีฝนทั้งปี อากาศอบอุ่น ขณะที่อีกฟากหนึ่งต้องเผชิญทั้งสภาวะอากาศหนาวเย็นและร้อนสุดขั้วในแต่ละรอบปี จึงวิวัฒนาการแยกออกเป็นสองสายพันธุ์ คือ assamica และ sinensis และนี่ก็คือต้นกำเนิดของต้นชาสองสายพันธุ์ที่มนุษย์ทั่วทั้งโลกกำลังดื่มกันอยู่นั่นเอง
KYOBASHI chiang rai