FIRE collection เหยียนฉาจากอู่อี๋ซาน
การอบไฟเป็นลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของเหยียนฉา อบไฟคือฮงเป้ย (烘焙) หมายถึงการนำใบชาที่ผ่านกระบวนการทำให้แห้งแล้วถึงระดับหนึ่ง ไปผ่านความร้อนอีกหลายรอบโดยอบกับไฟ กระบวนการนี้มีหน้าที่สำคัญคือการพัฒนาคุณภาพทางด้านรสชาติให้กับใบชา
อู่อี๋ซานเป็นพื้นที่ที่มีอากาศค่อนข้างอบอุ่นและชื้น สามารถร้อนได้มากในฤดูร้อนและหิมะก็ตกในบางพื้นที่ในฤดูหนาว เนื่องจากมีสภาพเป็นภูเขา อากาศจึงค่อนข้างชื้นและมีฝนตกชุก โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยแล้ว 1,800-2,000 มิลลิเมตรต่อปี ส่งผลให้ในช่วงที่มีการทำชา คือตั้งแต่ผ่านพ้นฤดูใบไม้ผลิเป็นต้นมา อาจมีฝนตกติดต่อกันหลายวัน ฟ้าปิด สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการตากใบชา ปัจจัยเช่นนี้ได้ผลักดันให้ผู้ทำชาในอู่อี๋พัฒนากรรมวิธีการผลิตที่ต่อมาได้กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นคือการนำใบชาไปทำให้แห้งโดยการอบกับไฟ
กรรมวิธีอันพิเศษเช่นนี้ส่งผลให้เหยียนฉามีลักษณะเฉพาะตัวที่สูง เมื่อชงดื่มแล้วรู้สึกอบอุ่น นอกจากรสชาติหวานติดปลายลิ้นที่กระเดียดไปทางชาแดง กับกลิ่นหอมนุ่มนวลของใบชาที่เกิดจากกระบวนการหมัก เหยียนฉายังให้รสสัมผัสของไฟที่ใบชาซึมซับเข้ามาในระหว่างขั้นตอนของการอบ ความรู้สึกนี้เองที่ทำให้เหยียนฉาสามารถสร้างความรู้สึกอบอุ่นให้กับร่างกายและเรียกดึงประสาทสัมผัสให้กลับมามีสมดุลที่ดีได้แม้สภาพอากาศจะมืดหม่น
ความสัมพันธ์ของสภาพแวดล้อมที่อู่อี๋ซานและสรรพคุณเด่นของเหยียนฉานี้เองที่มีลักษณะของการอุดหนุนเกื้อกูลซึ่งกันและกัน สภาพของลมฟ้าอากาศก่อให้เกิดกรรมวิธีพิเศษที่ส่งผลต่อรสชาติของเหยียนฉา และเหยียนฉาก็ให้พลังของรสสัมผัสแห่งไฟที่ช่วยต้านลมฝนและความอึมครึมของฟ้าฝน เป็นดั่งเช่นหยินกับหยาง ที่ถึงแม้จะเป็นสองขั้วตรงข้ามกัน แต่ในหยินนั้นมีหยาง และในหยางก็มีหยิน ทั้งสองสิ่งต่างสนับสนุนและเกื้อกูลกันต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด