รู้เฟื่องเรื่อง “ชานม”

ชาที่นำมาทำชานม(Milk Tea) จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

1. มีรสและกลิ่นของ “ชา” เข้มข้นพอสมควร เพราะเมื่อเทนมลงไปแล้ว กลิ่นและรสของนมจะได้ไม่ไปกลบกลิ่นและรสของชา

“นัตสึเมะ” (棗: Natsume)

“นัตสึเมะ” (棗: Natsume) คือภาชนะสำหรับใส่ “มัทฉะแบบอ่อน” (薄茶) ถูกตั้งชื่อเช่นนี้เพราะมีรูปร่างคล้ายผล “นัตสึเมะ” หรือ “พุทราจีน” ในภาษาไทย วิธีการใช้นัตสึเมะคือ ผู้มีหน้าที่ชงชาใน Japanese Tea Ceremony จะต้องนำมัทฉะมาร่อนด้วยตะแกรงใส่นัตสึเมะ

“ชาอัสสัม” (Assam Tea)

“ชาอัสสัม” (Assam Tea) คือชาดำ ที่ถูกปลูกขึ้นในรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย มีรสและกลิ่นของชาค่อนข้างเข้ม นิยมนำไปเบลนด์เป็น English Breakfast หรือผสมนม ชงเป็น milk tea

“อนุมูลอิสระ” (Free Radical)

“อนุมูลอิสระ” (Free Radical) คือ อะตอมที่มีอิเล็กตรอนเดี่ยว เมื่อวิ่งไปชนกับโมเลกุลใดๆ โมเลกุลนั้นก็จะสูญเสียอิเล็กตรอนของมันเอง เกิดเป็นอนุมูลอิสระตัวใหม่ไปเรื่อยๆ ไม่รู้จบ

วิธีเก็บรักษาใบชาให้อยู่ได้นาน

ใบชาโดยปกติแล้วจะสามารถเก็บไว้ได้ไม่เกิน 1 ปี นับจากวันที่ซื้อ หากเกินนั้นรสของชาจะค่อยๆจางไปจนไม่เหลือกลิ่น ซึ่งยิ่งหากเก็บไม่ถูกวิธี กลิ่นของชาก็อาจจางลงได้ในระยะเวลาแค่ 3 เดือน สิ่งสำคัญในการเก็บรักษาใบชาคือจะทำอย่างไรให้กลิ่นของชาคงอยู่ได้

Tip 8 ข้อ สำหรับการชงชาฝรั่งและดื่มด่ำในรสชาติ

ในการชงชาฝรั่งนั้นแม้อาจไม่ได้มีพิธีรีตองอย่างเช่นการดื่มชาในจีนหรือญี่ปุ่น แต่การจะชงชาฝรั่งด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสมให้ได้กลิ่นและรสที่พอดี รวมถึงการดื่มด่ำในรสชาติพร้อมของเคียงและบรรยากาศที่ลงตัวก็มีข้อแนะนำมาให้ลองทำกันอยู่หลายข้อ:

อุณหภูมิของน้ำกับการชงชา

ใบชาประเภทต่างๆ มีสารอาหารอยู่ในปริมาณที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการผลิต ซึ่งสารอาหารเหล่านี้นี่เอง ที่เป็นตัวกำหนด “รสชาติ” ของชา เช่น ชาที่มีกรดอะมิโนเยอะ ก็จะมีรสกลมกล่อม ชาที่มีสารแคทิซินเยอะ ก็จะมีรสฝาด และขม เป็นต้น

การเลือกน้ำแร่สำหรับการชงชา

ในการเลือกน้ำสำหรับใช้ชงชา ปกติแล้วสามารถใช้น้ำขวดธรรมดาแบบที่วางขายทั่วไป นำมาต้มให้เดือดก็เป็นอันใช้ได้ แต่บทความนี้ จะพูดถึงเฉพาะเรื่องการใช้น้ำแร่ครับ เพราะชนิดของน้ำแร่มีผลต่อรสของชาที่แตกต่างกัน ดังนั้น ข้อเท็จจริงเรื่องน้ำแร่ชนิดไหนจะชงชาออกมาได้รสอย่างไร

“โฮจิฉะ” (ほうじ茶: Hōjicha ) หรือ “ชาเขียวคั่ว”

“โฮจิฉะ” (ほうじ茶: Hōjicha ) หรือ “ชาเขียวคั่ว” ถูกผลิตโดยการนำใบชาเขียวที่เหลือจากกระบวนการผลิตชาเขียวประเภทอื่นๆไปคั่ว ทำให้มีกลิ่นหอมไหม้ ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น

***วิธีชงชาเย็น***

การชงชาเย็น ก็เหมือนกับการชงชาร้อน เพียงแต่ลดปริมาณน้ำร้อนให้เหลือเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น แล้วเทชาที่ชง ลงในแก้วใส่น้ำแข็ง รอสักครู่ น้ำแข็งก็จะละลายเข้ากับชา กลายเป็นชาเย็น วิธีนี้ มีข้อดีกว่าการชงชาทิ้งไว้แล้วปล่อยให้เย็น